ช่วงนี้ยังพอมีเวลาปั่นบล็อกเขียนรีวิวได้นิดหน่อย
จึงมีโอกาสได้พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันต่อในจังหวัดขอนแก่น จากเอนทรี่ที่ผ่านมาพาเที่ยวและสัมผัสบรรยากาศที่บางแสน 2 กันไปแล้ว ต่อจากนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับพัทยา 2 กันต่อเลยนะคะ
เดี๋ยวจะหาว่าเราพาเที่ยวไม่ทั่ว จะเสียชื่อบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวกันพอดี ฮี่ๆ พัทยา 2 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกุงเซิน
ห่างจากอำเภอเมืองไปประมาณ 78 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบน้ำจืดเช่นเดียวกัน
มีขนาดพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนอุบลรัตน์ค่ะ โดยมีเทือกเขาภูพานคำตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง
มีหาดทรายทอดยาวที่สวยงาม และมีกิจกรรมทางน้ำมากมาย
บรรยากาศโดยรวมเสมือนพัทยาชลบุรีค่ะ
ส่วนการเดินทางนั้นก็ไม่ยุ่งยากค่ะ ระยะทางจากตัวเมืองค่อนข้างไกลจึงต้องวางแผนและทำเวลากันสักนิ๊ดนะคะ จุดสตาร์ทจากตัวเมืองนะคะ
ให้ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 12 พอถึงแยกหนองเรือให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2038 แล้วจึงขับรถตรงไปประมาณ 12 กิโลเมตร
ก็จะผ่านอำเภอภูเวียงทางไปอุทยานแห่งชาติภูเวียงค่ะ
ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางเข้าไปยังพัทยา 2 หากไม่มั่นใจก็ให้จอดรถแวะถามชาวบ้านละแวกนั้นดีกว่านะเออ พอขับรถเข้ามายังบริเวณพัทยา 2 ก็จะเห็นป้ายยินดีต้อนรับดังในรูปภาพนะคะ ก็แสดงว่าคุณมาถูกต้องแล้วนะคร้าบบ
จริงๆ แล้ว พัทยา 2 มีหลายเส้นทางนะคะ ทางที่ดีสอบถามก่อนออกเดินทางก็ดีเหมือนกันค่ะ
เพราะอาจจะช่วยในการย่อระยะทางได้พอสมควรทีเดียว ทะเลสาบพัทยา 2
ที่อยู่บริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ โดยมีเทือกเขาภูพานคำทอดยาวเป็นฉากหลัง
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่นิยมมาปิคนิคกันที่นี่
เพราะนอกจากจะมีทัศนียภาพที่งดงาม เหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว
ยังเป็นสถานที่ทานอาหารเคล้าบรรยากาศที่เย็นสบายพร้อมกับเล่นน้ำกับเครื่องเล่นต่างๆ
คล้ายกับชายทะเล นอกจากเขื่อนอุบลรัตน์จะเป็นอ่างกักเก็บน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย และนอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านได้ฝากชีวิตไว้ที่นี่หลายครอบครัวเลยนะคะ
ไม่ว่าการดำรงชีวิตโดยการหาปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่น่าเชื่อว่าจะผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
หากทุกคนรวมทั้งนักท่องเที่ยวไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและรักษาธรรมชาติเช่นนี้ไว้ดังเดิม
เราเชื่อว่าที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์คู่จังหวัดขอนแก่นไปอีกนานแสนนานเลยค่ะ
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของเราขณะนี้
ทำให้เราคิดถึงประเทศมองโกเลียขึ้นมาในทันทีทันใด ดินแดนที่มีธรรมชาติ ภูเขา
การเลี้ยงสัตว์ และทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล
ที่มีความอุดมสมบูรณ์สวยงามดั่งสวรรค์ที่ถูกเนรมิตให้อยู่บนพื้นดิน ซึ่งนอกจากเรื่องธรรมชาติแล้ว สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่
น่าจะเป็นวัฒนธรรมและผู้คนซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น
ผู้คนท้องถิ่นยังคงดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย และใช้ชีวิตไปพร้อมกับการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน
จึงไม่แปลกใจที่ดินแดนแห่งนี้ จะเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ
รวมถึงตัวเราเองด้วยค่ะ พัทยา 2 ในช่วงน้ำน้อย
สามารถขับรถยนต์ลงไปตามเส้นทางสู่ทุ่งหญ้าสีเขียวตลอดจนถึงชายหาดด้านล่างได้เลย ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าสามารถขับรถลงไปได้ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าละแวกนั้นบอกกับเราเองค่ะ
เราจึงไม่ต้องเสียเวลาเดินเท้าฝ่าเปลวแดดลงไปให้เหนื่อยอีกต่อไป
ขอเบรกสักครู่กับเมนูคู่สร้างคู่สมอีกเช่นเคย ฮ่าๆ
ส้มตำกะปลาเผา เป็นเมนูทานเล่นสำหรับเราไปโดยปริยาย
กองทัพต้องเดินด้วยท้องเสมอนะเออ ขอเวลาเราชาร์ตแบตเติมพลังสักหน่อยนะคะ
มื้อนี้ไม่ขอทานข้าวเหนียวดีกว่า รู้สึกจะแน่นท้องมากไป ขอขนมจีนเบาๆ
สักจานกำลังดี หากทานข้าวเหนียวไปกลัวไปไม่รอดได้นอนเลื้อยอยู่แถวนี้แน่ๆ
เข้าตำราหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน แห่ะๆ บริเวณหาดพัทยา 2 ขับรถเข้ามาก็จะเจอกับร้านอาหารเปิดให้บริการเรียงรายอยู่หลายร้านค่ะ
สามารถขับรถเลือกทานกันได้ตามใจชอบ ร้านอาหารที่นี่จะแตกต่างจากบางแสน 2 เพราะที่นี่ลักษณะร้านจะเป็นเพิงก่อสร้างด้วยปูนหลังคาสีฟ้าสีน้ำเงินทั้งหมดเป็นร้านอาหารทั้งสิ้นค่ะ
มีลานจอดรถมีห้องน้ำบริการแบบครบวงจร เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารอีสานง่ายๆ
ประเภทส้มตำ ปลาเผา ไก่ย่าง ข้าวเหนียวค่ะ ส่วนอาหารตามสั่งก็มีนะคะ
ด้านล่างติดชายหาดมีบริการเช่าเปลผ้าใบสำหรับนอนหรือนั่งเล่นพร้อมร่มกันแดด
ราคาค่าเช่าเราเองก็ไม่แน่ใจนะคะ น่าจะประมาณ 100 – 200 บาทประมาณนี้
การจัดวางเปลนอนจะหันหน้าลงไปที่ชายหาดค่ะ
ไม่ได้จัดเรียงเป็นกลุ่มแบบหันหน้าเข้าหากัน โดยมีโต๊ะกลางไว้สำหรับวางอาหาร
และปูเสื่อสำหรับการนั่งล้อมวงทานอาหารได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางนี้ค่ะ
นอกจากนั้นยังสามารถสั่งอาหารจากด้านบนลงมาทานที่เปลนอนได้อีกด้วย หรือจะมาปิกนิกทำอาหารทานกันเอง แบบหมู่คณะหรือครอบครัวก็ยังได้
แต่หากมากันเป็นกลุ่มเพื่อนๆ คงจะเฮฮาสนุกสนานกันน่าดูเลยค่ะ
เราเดินเท้าลงไปสัมผัสบรรยากาศอย่างใกล้ชิดอีกสักรอบ
นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ตลอดทั้งปีค่ะ
แต่ช่วงที่เรามาค่อนข้างโชคดีที่ไม่มีใคร หรืออาจจะเดินทางมาถึงที่นี่เวลาเที่ยงพอดีก็เป็นได้ เป็นนักท่องเที่ยวทั้งทีต้องมาให้ถูกจังหวัดนะคะ
จะได้ไม่มีใครมาเดินเกะกะหน้าเลนส์ ถ่ายภาพสบายใจเฉิบเลยค่ะ ฮี่ๆ วิวทิวทัศน์สวยๆ กับบรรยากาศดีดีที่อยู่รอบๆ
ตัวเรา กับความกว้างใหญ่ของผืนน้ำที่ใสสะอาดและเย็นชุ่มฉ่ำ และระดับน้ำที่ค่อยๆ
ลาดลงไปเหมือนหาดทรายไม่แตกต่างไปจากทะเล จะต่างกันก็ตรงทะเลสาบแห่งนี้
เป็นน้ำจืดค่ะ แต่ก็อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนที่ไม่ชอบน้ำเค็มนะคะ
ซึ่งชาวขอนแก่นและต่างจังหวัดใกล้เคียงจะเดินทางมาเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุด ชาวบ้านที่นี่ยังบอกกับเราอีกว่า
บางวันที่นี่จะมีลมแรงมากทำให้มีคลื่นคล้ายกับทะเลจริงๆ
บานาน่าโบ๊ท หรือ
เรือกล้วยที่ลอยอยู่กลางน้ำน่าจะเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า
ที่นี่ไม่ต่างจากพัทยาเท่าไหร่ ส่วนที่ต่างกันคงจะเป็นจักรยานน้ำค่ะ
เพราะเครื่องเล่นชนิดนี้มีไว้สำหรับน้ำจืดเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีให้เห็นในทะเล
จักรยานน้ำที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นรูปหงส์มีหลายสีจอดเรียงรายอยู่ริมหาดมีอยู่หลายเจ้าค่ะ
สามารถสอบถามและต่อรองราคากันดูนะคะ ที่นี่มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นมากมาย
สามารถเลือกเช่ากันได้ เช่น ห่วงยาง เจ็ทสกี จักรยานน้ำ บานาน่าโบ๊ท
แม้ว่าคลื่นที่นี่จะเล็กกว่าคลื่นในทะเลอยู่มากก็ตาม
แต่เครื่องเล่นแต่ละชนิดก็ช่วยเติมสีสันและความสนุกให้กับทะเลสาบแห่งนี้
ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เห็นบรรยากาศแบบนี้กันแล้ว
หากใครมีโอกาสได้มาเยือนจังหวัดขอนแก่น และยังพอมีเวลาท่องเที่ยว
ลองแวะมาพักผ่อนที่นี่ดูนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น