ซุ้มไม้ไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม นครนายก



ซุ้มไม้ไผ่ หรือ อุโมงค์ต้นไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม จังหวัดนครนายก เป็นซุ้มต้นไผ่ยืนต้นเป็นทิวแถวเรียงรายมีลักษณะยอดไผ่ส่วนปลายโค้งเข้าหากัน จนเกิดเป็นอุโมงค์ที่สวยงาม เป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ต้นไผ่เหล่านี้ว่ากันว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งจัดว่าเป็นไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อีกด้วย บอกตามตรงหากใครมาจังหวัดนี้แล้ว ไม่ควรพลาดแวะมาถ่ายรูปเช็คอินกันนะคะ ซึ่งซุ้มไม้ไผ่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหน้าวัดจุฬาภรณ์วนาราม ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา ทางเข้าไม่ลึกมาก มีป้ายบอกทางเป็นระยะ มีสถานที่จอดรถสะดวกสบายค่ะ




หากใครอยากได้รูปสวยๆ และไม่ติดผู้คน ขอแนะนำให้มาในช่วงเช้านะคะ เพราะคนค่อนข้างจะเดินทางมากันมาก ขนาดเรามาที่นี่ยังไม่ถึง 8 โมงเช้าเลย ก็เจอนักท่องเที่ยวบ้างแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะวันหยุดหรือป่าว แต่หากเป็นวันธรรมดาอาจจะยังไม่มีก็ได้ค่ะ ซึ่งช่วงเช้ายังไม่ค่อยมีแสงแดดเท่าไหร่ จึงทำให้ดูบรรยากาศครึ้มๆ หน่อย หากมีแสงแดดพระอาทิตย์สาดส่องลอดผ่านใบไผ่คงมาจะสวยไม่น้อย เขาว่ากันว่าที่นี่บรรยากาศจะคล้ายคลึงกับป่าไผ่อาราชิยาม่า ในประเทศญี่ปุ่น  ส่วนจะจริงหรือไม่ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่ายังไม่เคยไปสัมผัสและเห็นกับตา ฮ่าๆ  




ที่นี่ได้ถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของจังหวัดนครนายก และยังเป็นจุดพักผ่อนที่สวยงาม ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบาย จัดเป็นอันซีนแห่งหนึ่งของนครนายก ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาถ่ายภาพกับอุโมงค์ป่าไผ่กันไม่ขาดสาย เพราะที่นี่เป็นสถานที่เช็คอินยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยว ที่รู้กันว่า ... ต้องห้ามพลาดเมื่อได้มาเยือนนครนายก สำหรับเราได้ถ่ายรูปเช็คอินเป็นที่เรียบร้อย ถือว่าทำภารกิจสำเร็จแล้ว ส่วนใครอยากได้รูปสวยๆ อย่าลืมปักหมุดกันไว้นะคะ



พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ นครนายก



พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี 2,600 ปี ในจังหวัดนครนายก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราเห็นรูปภาพในอินเตอร์เน็ตตามเว็บไซต์ต่างๆ ค่อนข้างบ่อยมาก ที่มีพระพุทธรูปองค์สีทองเหลืองอร่ามตั้งประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง โดยมีขนาดองค์ใหญ่โดดเด่นเป็นสง่า และรายล้อมไปด้วยพระพุทธรูปขนาดเล็กมากมาย ทำให้เรามีความสนใจเป็นอย่างมาก และตั้งใจจะเดินทางมายังสถานที่นี้ให้ได้ถ้ามีโอกาส ประจวบกับระยะทางที่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพฯ ทำให้การเดินทางยิ่งสะดวกสบายสำหรับเรา ที่จะเดินทางมาสัมผัสและเห็นด้วยตาสักครั้ง และถือโอกาสมาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสถานที่นี้




ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับที่นี่ก่อนนะคะ ว่าสถานที่นี้ได้สร้างขึ้นมาจากเหตุใด ซึ่งการท่องเที่ยวบางครั้งก็มาพร้อมกับความรู้ที่เราไม่เคยทราบ แต่เมื่อเราได้เดินทางมาสัมผัสแล้ว ก็อยากจะได้ความรู้เล็กๆ น้อยๆ กลับไป ซึ่งพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี 2,600 ปี เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งองค์ใหญ่จะมีขนาดหน้าตัก 9 เมตร ความสูง 13.5 เมตร เป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบริเวณโดยรอบยังมีการสร้างพระพุทธรูปขนาดเล็กหน้าตัก 90 ซม. จำนวน 1,250 องค์ ซึ่งเป็นตัวแทนพุทธสาวกที่แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพระพุทธกาล ที่เรียกว่า "วันจาตุรงคสันติบาต" ที่เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น 4 สิ่งด้วยกัน
1.  พระภิกษุสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาชุมนุมพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
2.  พระภิกษุสงฆ์เหล่านั้นเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ ได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
3.  พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์
4.  วันนั้นเป็นวันเพ็ญดือนมาฆะ คือ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์




จากความงดงามที่เราได้เห็นผ่านเว็บไซต์ต่างๆ กับการได้มาเห็นด้วยตาตนเอง บอกได้คำเดียวจริงๆ ว่างดงามอย่างน่าทึ่ง แม้ว่าเราจะไปในวันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจมากนัก แต่พระพุทธรูปสีทองเหลืองอร่ามยังคงความสวยงาม ในท่ามกลางบรรยากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ก็ไม่อาจทำให้ความงดงามนั้น ... ลดน้อยลงเลย บรรยากาศโดยรอบแวดล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติ ประกอบไปด้วยภูเขาและป่าไม้ที่เขียวขจี ล้อมรอบพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์แห่งนี้เอาไว้ หากใครสนใจอยากจะมาสัมผัสด้วยตาตนเองบ้าง เดินทางไม่ยากเลยค่ะ ให้ใช้เส้นทางที่จะไปน้ำตกสาริกา จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ รับรองไม่มีหลง ถ้าไม่มั่นใจ GPS ช่วยได้นะเออ



พระธาตุขามแก่น เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมือง ขอนแก่น



ขอนแก่น เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งครั้งนี้เราจะพาทุกคนเดินทางมากราบไหว้พระธาตุเจดีย์ที่สำคัญองค์หนึ่งของจังหวัดขอนแก่น นั่นก็คือ พระธาตุขามแก่น โดยองค์พระธาตุขามแก่น ประดิษฐานอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่น ประมาณ 25 กม. โดยพระธาตุขามแก่น เป็นเจดีย์สำคัญและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น และยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดขอนแก่นและของภาคอีสานอีกด้วย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีตำนานเล่าขานกันว่า พระธาตุได้ถูกสร้างมากว่า 2,000 ปีแล้ว และมีการบูรณะต่อมาอีกหลายครั้ง และจะมีงานฉลองพระธาตุขามแก่นเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6




พระธาตุขามแก่นมีประวัติเล่าขานกันมา ว่าเกิดขึ้นในช่วงที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งชาวบ้านมีการสร้างพระธาตุเพื่อนำพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ ต่อมากษัตริย์เจ้านครโมรีย์ได้นำพระอังคารไปไว้ที่นครของตน หลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมามีการอันเชิญพระอังคารธาตุบางส่วนมาบรรจุไว้ที่พระธาตุพนมในปัจจุบันอีกด้วย และบางตำนานยังกล่าวว่า บริเวณวัดเจติภูมิเดิมนั้น เป็นพื้นที่ว่างเปล่าและริเริ่มมีชาวบ้านเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ และพบว่ามีตอมะขามเหลือแต่แก่นต้นหนึ่ง ต่อมาพบว่าตอมะขามดังกล่าว มีการผลิใบ ผลิดอก สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้านยิ่งนัก และมีความเชื่อว่าใครที่ดูหมิ่นต้นมะขามต้นนี้ก็จะมีอันเป็นไป ทำให้ชาวบ้านเกิดความเคารพและบูชาต้นมะขาม ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นไว้ พร้อมกับบรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า 9 ประการ และตั้งชื่อว่า  "พระธาตุขามแก่น" 




ด้วยพระธาตุขามแก่นเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดขอนแก่นมาช้านาน ทั้งชาวบ้านชาวขอนแก่นรวมไปถึงประชาชนทั่วไปต่างก็ศรัทธากันมาก ได้เดินทางแวะเวียนมากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนั้น จังหวัดขอนแก่น ยังถือเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน และเป็นศูนย์รวมความเจริญในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์และทางวัฒนธรรมอีกมากมาย จึงทำให้ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก หากมีโอกาสได้เดินทางมาจังหวัดนี้แล้ว อย่าลืมแวะมาสักการะพระธาตุขามแก่นเพื่อเป็นสิริมงคลกันนะคะ


บั๊วเกี๊ยไหหลำโบราณ หวานเย็นชื่นใจ



บั๊วเกี๊ยไหหลำโบราณ ขนมหวานเชื้อสายจีน เป็นขนมหวานเย็นสไตล์จีนไหหลำ พร้อมใส่เครื่องเพียบ อาทิเช่น เส้นบะหมี่ ถั่วแดง วุ้นมะพร้าว เฉาก๊วย แป๊ะก๊วย ข้าวโพด ถั่วลิสงคั่ว ฯลฯ และใส่น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดงหอมหวาน และตบท้ายด้วยน้ำแข็งเย็นชื่นใจ ขายเพียงถ้วยละ 20 บาทเท่านั้น หากมาเยาวราชหรือไหว้พระช่วงกลางวัน ลองแวะมาดับร้อนกับร้านนี้ได้เลยนะคะ ลักษณะร้านเป็นร้านรถเข็นจอดอยู่ริมทางข้างวัดคณิกาผล ตรงปากซอยยมราชสุขุม พื้นที่ไม่ค่อยมีค่ะ มีเพียง 2 โต๊ะและเก้าอี้ให้ลูกค้าได้นั่งทาน เน้นทานแก้ร้อนแล้วค่อยเดินเล่นหรือไหว้พระกันต่อค่ะ ร้านนี้เปิดขายมานานแล้ว เวลาเรามาไหว้พระก็มักจะมาทานอยู่เป็นประจำ หาที่จอดรถค่อนข้างลำบาก แต่ส่วนมากเรามาไหว้พระอยู่แล้ว จึงจอดรถที่วัดหรือศาลเจ้าได้สบายค่ะ

เบอร์โทรศัพท์     085 - 8419353
เวลาเปิดทำการ   10.00 - 17.00 น.
สถานที่ตั้ง  ข้างวัดคณิกาผล แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ


จึงอังลัก ร้านหมูสะเต๊ะในตำนานแห่งเฉลิมบุรี


จึงอังลัก ร้านหมูสะเต๊ะในตำนานแห่งเฉลิมบุรี แต่ก่อนร้านนี้อยู่ที่เฉลิมบุรี เป็นร้านหมูสะเต๊ะเจ้าแรกแห่งประเทศไทย ชื่อเต็มของร้านนี้ คือ ร้านเจริญพร (จึงอังลัก) แต่ตอนนี้ได้ย้ายร้านมาอยู่ที่ถนนพระราม 4 แล้วนะคะ สำหรับร้านนี้เราค่อนข้างแวะมาทานบ่อย เพราะเป็นทางผ่านกลับบ้าน ก่อนขึ้นทางด่วนเป็นต้องแวะเสมอ เมนูของทางร้านมีไม่เยอะ เช่น ข้าวพระรามลงสรง ข้าวหมูแดง กระเพาะปลาน้ำแดง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟ และพระเอกของทางร้าน หมูสะเต๊ะ เราประทับใจหมูสะเต๊ะ เพราะไม้ใหญ่เต็มปากเต็มคำดีค่ะ ส่วนราคาก็ตามคุณภาพ เนื้อหมูไม่ติดมัน เนื้อล้วน การหมักไม่ฉุนเครื่องเทศ และที่ติดใจมากที่สุด เพราะขอน้ำจิ้มและอาจาดเพิ่มเติมได้ค่ะ

เบอร์โทรศัพท์    02 - 2529390
เวลาเปิดทำการ  08.00 - 17.00 น.
สถานที่ตั้ง  ถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ