วัดคีรีวงศ์ ตั้งอยู่บนเขาในเขตตัวเมืองนครสวรรค์ ที่สร้างขึ้นในสมัยปลายกรุงสุโขทัย ซึ่งเดิมทีเป็นวัดร้างกลางป่าเขา ที่มีพระธุดงค์ได้แสวงบุญมาพบ เมื่อปี พ.ศ.2504 ทางวัดคีรีวงศ์มีนโยบายปฏิบัติ 4 ประการ คือ ส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ส่งเสริมการปฏิบัติกรรมฐานของพระภิกษุสามเณร และประชาชนทั่วไป ส่งเสริมการเผยแพร่พระพุทธศาสนา และส่งเสริมการพัฒนาวัดให้มีความสะอาด ร่มรื่นสวยงาม ซึ่งปัจจุบันวัดคีรีวงศ์เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำนครสวรรค์ โดยมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาปฏิบัติกิจกรรมทางพุทธศาสนาไม่ขาดสายค่ะ
วัดคีรีวงศ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ใจกลางเมืองนครสวรรค์ มีองค์มหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ นามว่า พระจุฬามณีเจดีย์ เป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ทั้งหมดมี 4 ชั้น สีเหลืองทองอร่าม หากใครที่เดินทางมาถึงเมืองนครสวรรค์แล้ว จะมองเห็นพระจุฬามณีเจดีย์ ตั้งตะหง่านอยู่บนยอดเขาอย่างสง่างามค่ะ หากขึ้นไปถึงฐานพระเจดีย์ชั้น 4 แล้ว สามารถมองเห็นภูมิทัศน์อันสวยงามของเมืองนครสวรรค์ได้ในมุมกว้าง ถ้ามองไปทางทิศตะวันออก ก็จะมองเห็นเขากบ บึงบอระเพ็ด และตลาดปากน้ำโพ หากมองไปทางทิศใต้ จะเห็นอุทยานสวรรค์ และเขาจอมคีรีนาคพรต ถ้าหันไปทางทิศตะวันตก จะมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวอยู่เป็นช่วงๆ โดยมีภูเขาหลวงทอดตัวเป็นฉากอย่างงดงาม
ภายในวัดคีรีวงศ์ ประกอบด้วย พระอุโบสถ สมเด็จพระพุทธโคดมจำลอง ศาลาพุทธานุภาพ วิหารหลวงพ่อโต และพระจุฬามณีเจดีย์ ที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 19 ปลายกรุงสุโขทัย เมื่อประมาณ 600 ปีที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระพุฒจารย์ (อาจ อาสโก) วัดมหาธาตุ เป็นผู้ตั้งชื่อให้ และได้แนะนำให้สร้างพระจุฬามหาเจดีย์ไว้บนยอดเขาแห่งนี้ค่ะ ด้านนอกจะเห็นพระพุทธชินสีห์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ เป็นลักษณะผสมเชียงแสนสุโขทัย และรัตนโกสินทร์เข้าด้วยกันค่ะ เมื่อเดินเข้าไปภายในวัดส่วนแรก เราก็จะพบกับด้านหน้าสำหรับจุดธูปเทียนบูชา
หลังจากเราได้จุดธูปเทียน กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินชมบริเวณรอบๆ วัด เพราะสามารถเห็นวิวเมืองนครสวรรค์ได้จากมุมสูง สวยงามมากๆ อากาศดี เงียบสงบ หากมาในวันธรรมดาคนจะไม่ค่อยเยอะค่ะ สามารถกราบไหว้พระได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบหรือเดินเบียดกับใคร นอกจากวัดคีรีวงศ์จะมีพระจุฬามณีเจดีย์ ขนาดใหญ่สีเหลืองทองอร่ามไปทั้งองค์ ที่ปรากฎต่อสายตาอย่างงดงามในระยะไกลแล้ว ภายในวัดยังสะดวกสบายในการไหว้พระ ทำบุญ มีเครื่องราง พระพุทธรูป และเหรียญต่างๆ ให้เช่าบูชากลับบ้านด้วยนะคะ นอกจากนั้นภายในวัดยังมีพระสงฆ์ คอยรับสังฆทานพร้อมให้ศีลให้พรอีกด้วยค่ะ
เมื่อเราเดินมาถึงภายในองค์พระเจดีย์ บริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองต่างๆ ที่มีความสำคัญของเมืองไทยเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชา เช่น พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช พระพุทธโสธร พระพุทธรูปนาคปรก พระพุทธรูปปางตรัสรู้ ฯลฯ ซึ่งพระพุทธรูปองค์ใดที่ไม่อนุญาตให้ปิดทอง ทางวัดก็จะมีป้ายแจ้งให้ทราบไว้อย่างชัดเจนค่ะ ใครที่ชอบไหว้พระทำบุญ มาวัดคีรีวงศ์รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ด้วยวัดคีรีวงศ์ มีพระจุฬามณีเจดีย์ที่งดงาม สีเหลืองทองอร่ามไปทั้งองค์ ถือว่าเป็นจุดเด่น ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเยือนวัดคีรีวงศ์อย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้ว่าการทำบุญ ไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิตราบรื่น และมีความสุขตลอดไป จะเป็นแค่ความเชื่อ และความศรัทธา ที่เราก็ไม่รู้ว่าคำขอจะได้ผลหรือไม่ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ ของคนไทยมาอย่างช้านาน ที่ทำให้มีความรู้สึกมีกำลังใจได้เยอะทีเดียวค่ะ
และในบริเวณเดียวกันก็จะพบกับรูปหล่อ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย ที่มีขนาดเท่าองค์จริง มีจำนวนหลายองค์ด้วยกัน เช่น พระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง หลวงปูทวด วัดช้างไห้ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และยังมีพระสังกัจจายน์ด้วยนะคะ ซึ่งรูปหล่อเหล่านี้สามารถปิดทองได้ค่ะ นอกจากนั้น ยังมีรอยพระพุทธบาทจำลอง แบบ 12 ราศี ให้ได้ปิดทองกันด้วย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เกิดในราศีต่างๆ ได้ขอพรตามอัธยาศัย เพื่อให้เกิดความผาสุกร่มเย็น และความเจริญก้าวหน้าของผู้คนในแต่ละราศีค่ะ
บริเวณชั้นที่ 3 จะเป็นการทำพิธีแก้ชงปีเกิดค่ะ ขอผ่านขึ้นไปยังบริเวณพระเจดีย์ชั้นที่ 4 เลยนะคะ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปจำลองที่สำคัญในประเทศไทย ให้ได้กราบไหว้สักการะบูชาถึง 4 องค์ด้วยกัน คือ พระพุทธรูปมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ได้ถูกประดิษฐานอยู่ทางทิศใต้ พระพุทธชินราชจำลอง ได้ถูกประดิษฐานอยู่ทางทิศเหนือ พระพุทธรูปโสธรจำลอง ถูกประดิษฐานอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ถูกประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันตกค่ะ
นอกจากนั้นภายในโดมพระเจดีย์ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม เกี่ยวกับพุทธประวัติไว้ให้ได้ชมอีกด้วย และที่พิเศษสุดไปกว่านั้น บริเวณตรงกลางภายในโดมพระจุฬามณีเจดีย์ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ไว้บนแท่นเจดีย์องค์เล็ก เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชาค่ะ และหากเดินออกมาด้านนอก เราก็จะพบกับพระพุทธรูปปางประทานพร จำนวน 4 องค์ ประดิษฐานไว้ทั้ง 4 ทิศ ที่เปรียบไปด้วยจตุพิธพร 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนโซนไหน ต่างก็มีพระพุทธรูปให้เราได้กราบไหว้กันเพลินๆ ค่ะ
พระพุทธศาสนาอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน นับตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม ต่างศรัทธานับถือพระพุทธศาสนา เรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบัน และชาวโลกต่างก็รู้ว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนพระพุทธศาสนา และยังเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกอีกด้วย วัดคีรีวงศ์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญๆ ของเมืองไทยไว้อย่างมากมาย เป็นสถานที่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการปฏิบัติธรรมอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนั้น ในยามเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น และยามเย็นที่พระอาทิตย์ตก ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วยค่ะ หากใครเดินทางผ่านเมืองนครสวรรค์แล้ว อย่าลืมแวะมาเยือนวัดคีรีวงศ์กันนะคะ