อุโบสถสีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ ฉะเชิงเทรา



วัดปากน้ำโจ้โล้  ตั้งอยู่ในอำเภอบางคล้า ติดริมแม่น้ำบางปะกง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนคงจะรู้จักกันมาบ้างแล้ว เป็นวัดที่มีความแปลกไม่เหมือนใครและเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ที่มีชื่อเสียงในความสวยงามของอุโบสถสีทองทั้งหลัง เหลืองอร่ามเปล่งประกายเป็นที่สะดุดตา ตลอดการตกแต่งประดับประดาไปด้วยลวดลายที่อ่อนช้อยแบบไทยได้อย่างงดงาม  เป็นจุดเด่นแก่ผู้ที่ได้มาพบเห็น ด้วยวัดแห่งนี้ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นงดงามตระการตา จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ที่นี่จึงจัดว่าเป็น Unseen อีกแห่งของเมืองแปดริ้วค่ะ




เมื่อขับรถเข้ามายังบริเวณวัดปากน้ำโจ้โล้ จะเจอลานจอดรถโล่งกว้าง จอดรถได้สะดวกสบายหลายคัน และสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้อุโบสถสีทอง ก็จะเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์ใหญ่ที่สร้างอยู่ด้านขวามือทางเข้า ถัดมาจะเห็นอุโบสถสีทองตั้งตะหง่านงดงามตระการตาอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถสีทองมี 4 ด้าน มียักษ์ทวารบาลหรือท้าวเวสสุวรรณยืนเฝ้าอยู่ ด้านในตัวอุโบสถนั้นมีสีเหลืองเหมือนด้านนอก รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็จะเน้นสีทองคำเช่นเดียวกัน ทำให้ดูงดงามและล้ำค่าน่าสักการะยิ่งนัก ด้านในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัย อยู่ในอริยบถนั่งขัดสมาธิ




วัดนี้ได้เล่าขานกันมาว่า เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้วยปากน้ำโจ้โล้เป็นบริเวณที่ตั้งทัพของพม่า ซึ่งได้ยกทัพมาปะทะกับกองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ผลของการสู้รบในครั้งนั้น ปรากฎว่ากองทัพพม่าไม่สามารถสู้ทัพของพระเจ้าตากสินได้ พระเจ้าตากสินจึงทรงโปรดให้สร้างเจดีย์เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ชื่อว่า โจ้โล้ และว่ากันว่า คำว่า โจ้โล้ นั้นมาจากการที่พระเจ้าตากสินทรงวางแผนยุทธการสงครามเข้าตีทัพพม่า โดยการที่ทรงโล้เรือมาตามลำน้ำ ให้ทหารพม่าเห็นว่าทรงมาเพียงลำพังเพื่อให้ทัพพม่าตายใจ แล้วให้ทหารซุ้มล้อมโจมตีจนได้ชัยชนะ อีกกระแสหนึ่งก็บอกว่า บริเวณท่าน้ำของวัดมีปลากระพงขาวชุกชุมมาก คำว่า จ้อโล้ มาจากคำจีนแต้จิ๋ว ที่แปลว่า ปลากระพงขาว ต่อมาได้เพี้ยนมาเป็นคำว่า "โจ้โล้" นั่นเอง 




นอกจากความสวยงามของอุโบสถสีเหลืองทองแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก บวกกับสถานที่ติดกับแม่น้ำบางปะกง ทำให้บรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว เพราะมีลมอยู่ตลอดเวลา วันที่เราเดินทางมาเป็นวันหยุด ทำให้มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่สะดวกในการเก็บภาพในอุโบสถสักเท่าไหร่ แต่หากใครได้เดินทางมาเยือนและเห็นกับตาตนเอง ก็จะได้พบกับความงดงามที่สามารถมาสัมผัสกันได้ในทุกๆ วัน แต่เมื่อได้มาเยือนที่นี่อย่าลืมลอดฐานพระประธานในโบสถ์กันนะคะ เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ได้มาเที่ยวชมวัด นอกจากนั้นภายในวัดยังมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชให้ได้สักการะอีกด้วยค่ะ