วัดมังกรบุปผาราม (วัดเล่งฮัวยี่) จันทบุรี


วัดมังกรบุปผาราม ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เส้นทางไปจังหวัดตราด เป็นวัดจีนขนาดใหญ่ในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เคารพศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและและชาวไทยเชื้อสายจีน ที่นี่มีผู้คนนิยมแวะมากราบไหว้สักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล มาขอพรให้มีโชคมีลาภ สะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา และแก้ปีชง ซึ่งวัดมังกรบุปผาราม มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "วัดเล่งฮัวยี่" มีความหมาย คือ เล่ง แปลว่า มังกร ฮัว แปลว่า ดอกไม้ ยี่ แปลว่า วัด วัดแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า "วัดมังกรบุปผาราม" ถือเป็นส่วนหางของมังกรค่ะ ส่วนหัวมังกรอยู่กรุงเทพฯ ที่วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ส่วนท้องมังกรอยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) ไว้โอกาสหน้าเราจะรีวิวให้ได้ชมกันนะคะ


วัดมังกรบุปผาราม เป็นวัดในพุทธศาสนา มหายานฝ่ายจีนนิกาย สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2520 มีประวัติเกี่ยวข้องกับ พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (สกเห็ง) เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ซึ่งท่านเป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง ผู้ที่สร้างวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) และวัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) ที่ต้องการสร้างวัดคู่บ้านคู่เมือง ให้แก่ชาวไทยเชื้อสายจีน โดยยึดคติความเชื่อในเรื่องมังกรจีน ที่ว่ามังกรจะประกอบไปด้วย ส่วนหัว ส่วนท้อง และส่วนหาง จึงได้สร้าง 3 วัดดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งภายในวัดมังกรบุปผาราม มีบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามค่ะ เราเข้าไปชมด้านในกันเลยนะคะ


ด้านหน้าวัดมีซุ้มประตูทางเข้า และอาคารตามแบบศิลปะจีน มีรูปมังกรประดับกระเบื้องหลากสี อาคารด้านหน้าสุด เป็นวิหารท้าวจตุโลกบาล ส่วนด้านในเป็นห้องโถงโล่ง ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอาริยเมตรไตรยโพธิสัตว์ (หมี่เล็กผ่อสัก) หรือพระอนาคตพุทธเจ้า เป็นพระเมตไตรยแบบจีน ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต มีลักษณะอ้วนท้วนสมบูรณ์ พุงพลุ้ย หน้าตายิ้มแย้ม ร่าเริง เบิกบานเป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ส่วนบริเวณมุมห้องโถงทั้ง 4 มุม มีธรรมบาลผู้ดูแลโลกในทิศทั้ง 4 ได้แก่ ท้าวธตรฐมหาราช เป็นเทพปกครองทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหกมหาราช เป็นเทพปกครองทิศใต้ ท้าววิรูปักษ์มหาราช เป็นเทพปกครองทิศตะวันออก และท้าวเวสสุวรรณ เป็นเทพปกครองทิศเหนือค่ะ


วัดมังกรบุปผาราม มีลักษณะการวางผังวัดเป็นสี่เหลี่ยม มีพระอุโบสถทรงจีน หลังคาซ้อน 3 ชั้นอยู่ตรงกลาง ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกและหินขัด เป็นลวดลายต่างๆ อย่างสวยงาม ล้อมรอบด้วยอาคารต่างๆ อยู่ในแนวสี่เหลี่ยมล้อมรอบ เสมือนกับวัดมังกรกมลาวาส และวัดจีนประชาสโมสร ด้านหน้าวัดเป็นลานจอดรถ มีวงเวียนน้ำพุอยู่บริเวณด้านหน้าค่ะ ด้านข้างซ้ายและขวา มีหอแปดเหลี่ยมด้านละหอ ที่นี่ถือว่าเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรม ลักษณะผสมผสานอย่างกลมกลืน ระหว่างพุทธศิลป์ไทย และแบบสถาปัตยกรรมจีนทางตอนใต้ค่ะ


อุโบสถตรงกลาง เป็นอาคารที่สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบจีนค่ะ มีบันไดทางขึ้นด้านหน้าทั้งสองข้าง ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ คือ องค์ซ้ายพระอมิตาภระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในดินแดนสุขาวดี องค์กลางพระศากยมุนีพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงออกผนวช องค์ขวาพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูแห่งยารักษาโรค ถ้าผู้ใดได้นมัสการก็จะปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือหายเจ็บป่วยเร็วขึ้นค่ะ ภายในวัดมังกรบุปผารามมีสถานที่กราบไหว้สักการะ รวมทั้งหมด 17 จุด สามารถกราบไหว้ตามขั้นตอนเรียงลำดับตามตัวเลข ที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ ได้เลยนะคะ


ส่วนด้านหลังอุโบสถ เป็นวิหารสุขาวดีตรีอารยะ ภายในประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือ องค์เจ้าแม่กวนอิม ปางพันมือพันตา แสดงถึงพระกรุณาในการช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ พระอมิตาภพุทธเจ้า องค์ศาสดาแห่งสุขาวดี พระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์ เป็นพระพระโพธิสัตว์ด้านกำลัง ที่แสดงถึงพลังจิตที่เข้มแข็งของพระพุทธเจ้า และวิหารพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ซึ่งเป็นที่นับถือมากในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ผู้โปรดสัตว์ที่อยู่ในนรกภูมิ และมนุษย์โลก เป็นต้น วัดมังกรบุปผาราม เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก เปิดให้เข้าชมและกราบไหว้ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. โดยไม่มีค่าเข้าชมแต่อย่างใดค่ะ หากใช้เส้นทางจันทบุรี - ขลุง อย่าลืมแวะกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกันนะค่าา