กระบี่ มรกตแห่งอันดามัน ครั้งหนึ่งกับการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนของเรา เพื่อพาร่างกายไปพักผ่อนแบบฟินๆ เราต้องการเกาะสวยๆ ชายหาดสีขาว ทรายละเอียดนุ่มละมุน ท้องฟ้าสีคราม และน้ำทะเลสีเขียวมรกต จังหวัดที่แว๊บเข้ามาในสมองของเราตอนนี้ ต้องยกให้กับจังหวัดกระบี่อย่างขาดลอยค่ะ สำหรับทริปนี้การเดินทางสู่ภาคใต้ของเรา เราวางใจการบินไทยเพื่อนำเราไปสู่ยังจุดหมายปลายทาง จากกรุงเทพไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่ ใช้เวลาในการเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ทางด้านการท่องเที่ยวทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และสิ่งที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยือนจังหวัดกระบี่ ก็คือ ความงดงามของเกาะต่างๆ ที่มีมากถึง 130 เกาะ ส่วนใหญ่เป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีคนมาอาศัย จะมีเพียงแค่ 13 เกาะเท่านั้น ที่มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะศรีบอยา เกาะไม้ไผ่ เกาะปอดะ และเกาะห้อง
หลังจากอิ่มท้องกับอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รวมตัวกันไปขึ้นเรือตามเวลาที่กำหนดที่ได้นัดหมายกัน พวกเราเหมาเรือสปีดโบ๊ทในการเดินทาง โดยนัดให้มารับที่ชายหาดด้านหลังของโรงแรม สะดวกสบายชิลล์ๆ แบบไม่ต้องรีบร้อน บนเรือมีพนักงานขับเรือ 1 คน และลูกเรืออีก 2 คน ภายในเรือมีอุปกรณ์ความปลอดภัยไว้ให้สวมใส่ และมีเครื่องดื่มไว้ให้บริการอย่างครบครัน ทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลม และยังมีขนมและผลไม้ไว้บริการในมื้อเที่ยงอีกด้วยนะคะ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือและพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางออกสู่ท้องทะเล เรือค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ ยิ่งเรือทะยานออกสู่กลางทะเลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เห็นความงดงามของท้องทะเลมากขึ้นทุกที สีน้ำทะเลสีเขียวมรกตสมคำร่ำลือค่ะ บวกกับท้องฟ้าสีครามสดใส และหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่ประดับประดาเป็นปะติมากรรมกลางทะเลช่างวิจิตรสวยงามเกินคำบรรยาย แม้จะมีแดดเราก็ไม่หวั่นไหวนะคะ มาเที่ยวทะเลจะกลัวทำไมกับความดำ เปิดผิวท้าแดดท้าลมกันไปเล้ยย ครีมกันแดดทาไปก็แค่นั้นแระ ยังไงก็เอาไม่อยู่ ฮ่าๆ
ความสวยงามแห่งท้องทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนค่ะ ที่จะเย้ายวนชวนคุณให้ไปเยือนสักครั้ง ให้หลงใหลในเสน่ห์แห่งท้องทะเล ภูผา และฟ้าสีคราม ผ่อนคลายไปกับความงดงามทางธรรมชาติกับท้องทะเลแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย .... ที่รอคุณอยู่ และขอวิงวอนหากได้แวะมาเชิงธรรมชาติไม่ว่าที่นี่หรือที่ไหนๆ ได้โปรดรักษาสิ่งแวดล้อมและความสะอาดให้อยู่เป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลานของเรานะคะ ช่วยกันรักษาความสะอาด และอย่าได้ทำลายธรรมชาติที่มีอยู่ให้ลดน้อยลงไป ช่วยกันคนละไม้คนละมือนะคะทุกๆ คน
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราพามาชม "อ่าวห้อง" หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะเหลาบิเละ" ลักษณะจะคล้ายกับห้องโถงกว้างขนาดใหญ่กลางทะเล ที่เรือสามารถแล่นเข้าไปได้เมื่อน้ำขึ้น มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวเท่านั้น โดยล่องเรือผ่านช่องภูเขาสองลูกเข้าไปสู่ห้องรโหฐาน ซึ่งด้านในนั้นจะมีป่าโกงกางและโอบล้อมด้วยภูเขาคล้ายปากปล่องภูเขาไฟ ภายในน้ำทะเลจะใสดั่งคริสตัล สามารถลงเล่นน้ำได้ค่ะ เพราะระดับน้ำไม่ลึกมาก สามารถมองเห็นพื้นน้ำและมีฝูงปลาหลากหลายสีสันมาว่ายน้ำทักทายนักท่องเที่ยว สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมากค่ะ
เกาะผักเบี้ย เเป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง มีชายหาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำทะเล มีหาดทรายปนกรวด น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาดมากค่ะ จะเป็นสีเขียวอมฟ้า บรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ด้านหน้ามีภูผาขนาดย่อมรูปร่างแปลกตาคล้ายกับดอกเห็ด และจะสามารถมองเห็นโขดหินมีลักษณะคล้ายดอกเห็ดได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลาน้ำลง เกาะผักเบี้ยเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่บริเวณริมชายหาด เกาะที่นี่จะมีแนวชายหาดไม่กว้างขวางมากนัก เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยแห่งนี้ จะปรากฏเป็นแนวยาวจรดอีกเกาะหนึ่ง และสามารถเดินถึงกันได้ในเวลาน้ำลงเต็มที่เท่านั้น เพราะในเวลาที่น้ำขึ้น น้ำจะแยกเกาะผักเบี้ยออกเป็นสองเกาะค่ะ
เกาะผักเบี้ย จะมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่บ้าง แต่สภาพก็ไม่ค่อยสมบูรณ์และสวยงามไม่มากนัก หากจะเปรียบเทียบกับสภาพภูมิทัศน์ต่างๆ กับเกาะอื่นๆ ก็จะพบว่าเกาะผักเบี้ยมีความสวยงามด้อยกว่าเกาะต่างๆ พอสมควรค่ะ พวกเราจึงไม่ได้ลงเรือที่เกาะแห่งนี้ เพียงแค่นำเรือโฉบเข้าไปดูเพียงเล็กน้อยค่ะ
เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมากๆ ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีคราม โดยมีจุดที่น่าสนใจ ได้แก่ "อ่าวบิเละ" ซึ่งเป็นอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวมรกต ชายหาดเป็นทรายขาวละเอียด มีฝูงปลาแหวกว่ายให้เห็นเป็นจำนวนมาก และเกาะห้องมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงามค่ะ เหมาะแก่การดำน้ำชมความงดงามใต้ท้องทะเลเป็นที่สุด นอกจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการังและเล่นน้ำหยอกเย้ากับฝูงปลาแล้ว บนเกาะนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 400 เมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจกิจกรรมนี้ด้วยนะคะ
ทะเลแหวก แห่งท้องทะเลอันดามันเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อม 3 เกาะ ที่มีหาดทรายเชื่อต่อติดกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก ได้แก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับทะเลแหวกกันก่อนนะคะ เกาะทับเป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ ยามน้ำลดหาดทรายทางด้านใต้จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะไก่ กลายเป็นสะพานธรรมชาติที่สวยงามมีความยาวประมาณ 200 เมตร แม้จะมีหาดทรายเล็กๆ แต่เม็ดทรายที่นี่ขาวละเอียกมาก และน้ำทะเลใสอีกด้วยนะคะ เกาะหม้อ เป็นโขดหินไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะ น้ำทะเลใสสะอาดอยู่ห่างจากเกาะทัพเพียง 70 เมตร หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อกัน สามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปยังเกาะทับได้ ส่วนเกาะไก่ ความประทับใจที่เราได้พบ ก็คงจะเป็นหาดทรายขาวทอดยาวเคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสีฟ้าใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นอย่างดี ที่คอยต้อนรับและพร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอค่ะ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากเล่นน้ำทะเลและเพลิดเพลินกับปลาเสือจนหมดแรง แทบจะคลานเป็นปลาพะยูนเกยตื้นเลยค่ะ ยังดีนะคะที่ทางลูกเรือได้จัดของว่างไว้ให้ ปูเสื่อเรียบร้อย คนละชิ้นสองชิ้นตุบตับกันแบบไม่พูดพล่ามทำเพลง เพราะความหิวเกลี้ยงจานเลยครัช ตอนนี้ใครเอาอะไรมาเสิร์ฟก็หมด ฮ่าๆ ไม่เคยเล่นน้ำทะเลที่ไหนแบบลืมเวล่ำเวลาแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ แห่ะๆ
สำหรับทริปนี้ ... เรามีความสุขและประทับใจมากค่ะ กับความงดงามของท้องทะเลจังหวัดกระบี่ ที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่อง ฟ้าสวย หาดทรายขาว และน้ำทะเลใสดั่งมรกต สำหรับความงดงามของเกาะห้อง และทะเลแหวก เราให้คะแนนเต็มสิบเลยค่ะ หากวันหน้ามีโอกาสเราจะกลับมาเยือนที่นี่แน่นอน เพราะทุกสิ่งรอบๆ ตัวที่จังหวัดกระบี่ที่เราได้สัมผัสมา มันดีต่อใจเราจริงๆ ทั้งที่พัก ที่เที่ยว และอาหารการกิน ถูกใจเหลือเกิน ทั้งฟินทั้งชิลเลยค่ะ อิอิ ส่วนเวลานี้คงต้องโบกมือลาท้องทะเลกลับสู่กรุงก่อนนร้าาาาา .... ไว้เจอกันทริปหน้าค่าา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น