ป้อมปี่ เป็นสถานที่ชมวิวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ที่หลายๆ คนพูดถึงกันว่า เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของทางภาคตะวันตก และป้อมปี่ก็เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก
เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามในยามเย็น
มีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ สามารถมองเห็นพื้นน้ำของอ่างเก็บน้ำได้อย่างชัดเจน มีทิวทัศน์ภูเขาอยู่ไกลสุดสายตา ในเวลายามเย็นมีพระอาทิตย์สีแดงส้มมาทักทายกันทุกวัน
และพระอาทิตย์ดวงนั้นก็จะค่อยๆ คล้อยต่ำลง แล้วหายวับไปในเนินเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป
แล้วไม่ทันไรท้องฟ้าและเวิ้งน้ำที่เป็นสีส้มนั้น ก็จะหายวับกลับกลายเป็นสีดำแห่งห้วงราตรี
จุดชมวิวป้อมปี่ เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมอยู่ในเส้นทางผ่านระหว่างอำเภอทองผาภูมิกับอำเภอสังขละบุรี
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากจะมากางเต็นท์นอนแล้ว
ส่วนใหญ่จุดหมายหลักเพื่อมาชมและถ่ายรูปพระอาทิตย์ในยามเย็นค่ะ แต่สำหรับเราแล้ว
.... ป้อมปี่ไม่ได้มีเพียงวิวทิวทัศน์หรือพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเท่านั้น
ยังมีจุดถ่ายภาพให้เราได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกกันอีกมากมายค่ะ ดังนั้น ก่อนที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า
เราไม่พลาดเลยจริงๆ กับการถ่ายภาพเล่นตามมุมต่างๆ กว่าจะได้เก็บภาพพระอาทิตย์ตกดิน
เราได้มาหลายช็อตเลยค่ะ ฮ่าๆ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากางเต้นท์ เพื่อสัมผัสบรรยากาศและชมพระอาทิตย์ตก
ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก็ได้จัดลานกางเต้นท์ไว้บริเวณสนามหญ้าริมอ่างเก็บน้ำ
เป็นเนินดินมีพื้นที่การไล่ระดับเหมือนขั้นบันไดขนาดใหญ่ ที่พอจะได้กางเต็นท์ได้อย่างสบาย
สามารถเลือกมุมไหนก็ได้ จะเป็นชั้นบนหรือชั้นล่าง
เพราะการไล่ระดับเนินดินทำให้สามารถชมวิวได้เหมือนกันหมด
ไม่ว่าจะกางเต้นท์ชั้นบนหรือชั้นล่าง ก็สามารถชื่นชมทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่มีใครมาบังแน่นอน หากเดินลงไปเรื่อยๆ
จะมองเห็นว่าด้านล่างจะมีระเบียงยื่นออกไปในอ่างเก็บน้ำ เป็นมุมคลาสสิคที่ใครหลายๆ
คนห้ามพลาดมุมนี้เลยนะคะ เพราะเป็นมุมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ สามารถชมวิวและรับลมได้ดีทีเดียว
คำว่า “ป้อมปี่” เป็นชื่อของจุดชมวิวที่สวยงามในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์
แต่คำว่าป้อมปี่ได้เสียงเพี้ยนมาจากภาษากระเหรี่ยงคำว่า “เปอปี่” หมายถึง ต้นอ้อ แต่พอเรียกกันไปมาเสียงจึงเพี้ยนมาเป็นป้อมปี่เสียมากกว่า ระหว่างรอเราเลือกนั่งชิลล์ๆ รับลมเย็นๆ ที่พัดมาอยู่เรื่อยๆ ทำให้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงาม
กับชีวิตที่ได้หลุดพ้นจากเรื่องราวในเมืองกรุงที่แสนจะวุ่นวาย นั่งกันสองตัว
เอ้ยม่ะช่าย หนึ่งคนกะหนึ่งตัวกับเจ้าตูบที่แสนรู้
ตั้งแต่ที่เราลงจากรถก็เดินมาต้อนรับเสมือนเป็นเจ้าถิ่นที่คอยมารับรองผู้ที่มาเยือนค่ะ ไม่ว่าเราจะเดินไปที่ไหน เจ้าตูบก็จะไปด้วยเช่นกัน ทั้งน่ารักทั้งแสนรู้จริงๆ
ระหว่างที่เรานั่งรอเวลาพระอาทิตย์คล้อยต่ำ ฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีแระ เตรียมจับกล้องในมือให้กระชับพร้อมรัวชัตเตอร์เถอะ
พอฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสัญญาณเตือนว่าเวลาแห่งการรอคอยกำลังจะมาแล้ว ซึ่งแต่ละนาทีท้องฟ้าจะเริ่มเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ภาพทุกช่วงเวลาถูกเราบันทึกลงเมมโมรี่อย่างไม่ขาดสาย
หากใครที่ชอบดูแสงพระอาทิตย์หรือชอบถ่ายพระอาทิตย์ตกดิน
จะรู้สึกว่าแสงยามเย็นนั้น มีหลากหลายสีสันที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไม่ซ้ำแบบ แต่ละช่วงเวลาเราได้ความประทับใจสำหรับที่แปลกใหม่เสมอ
และความทรงจำนี้จะคงอยู่ในความรู้สึกของเรายากเกินจะลืมเลือน
ใครที่ยังไม่เคยได้แวะมาสัมผัสกับพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด
ต้องหาโอกาสแวะมาชมกันสักครั้งนะคะ เราถ่ายภาพอาจจะไม่สวยนัก
แต่ก็ตั้งใจเก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น