ช่วงหน้าฝนต้องห้ามพลาดเทศกาลชมความงดงามของดอกไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ
อย่างเช่น “ทุ่งดอกกระเจียว” ของจังหวัดชัยภูมิ ที่จะทยอยเบ่งบานเป็นสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่า
เป็นระยะเวลาประมาณ 3 - 4 เดือน ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน ที่ออกดอกปีละครั้งเท่านั้น
สำหรับทุ่งดอกกระเจียวของจังหวัดชัยภูมินั้น มีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือ
อุทยานแห่งชาติไทรทอง ที่เราได้รีวิวไปแล้วเมื่อเอนทรี่ที่ผ่านมา และอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเทพสถิต ที่เรากำลังจะพาทุกๆ คนไปชมในขณะนี้
การเข้าชมทุ่งดอกกระเจียว ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
มีบัตรค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท และค่าบริการรถรางอีกคนละ 30 บาท ที่นี่นอกจากจะได้ชมดอกกระเจียวแล้ว
ยังมีแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย เช่น ผาสุดแผ่นดิน และป่าหินงาม
ที่มีก้อนหินรูปร่างแปลกตา เช่น หินถ้ำมอง หินมอหำตั้ง หินฟีฟ่าเวิร์คคัพ
หินแม่ไก่ยักษ์ ฯลฯ ที่เกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำมาเป็นเวลานานหลายล้านปี
จนกลายเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่มหัศจรรย์อย่างยิ่งค่ะ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเยอะกว่าอุทยานแห่งชาติไทรทองมากทีเดียว อาจจะพลุกพล่านไปบ้าง ถือว่าเป็นสีสันของการท่องเที่ยวเนอะ อิอิ
สถานที่แรกของการท่องเที่ยวหน้าฝน
ที่เราจะพาทุกๆ คนไปชมทุ่งดอกกระเจียวของจังหวัดชัยภูมิ
หลังจากที่เราได้พาชมทุ่งดอกกระเจียวของอุทยานแห่งชาติไทรทองกันไปแล้ว
คราวนี้เราพามาชมทุ่งดอกกระเจียวของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามกันบ้างนะคะ ว่าทุ่งดอกกระเจียวที่ไหนจะสวยและถูกใจเพื่อนๆ มากกว่ากัน แต่สำหรับเราขอเทคะแนนทั้งหมดยกให้อุทยานแห่งชาติไทรทองค่ะ
เพราะที่นั้นดอกกระเจียวบานสะพรั่งหนาแน่นเต็มทุ่งไปหมด และออกดอกใหญ่อีกด้วย
แต่นักท่องเที่ยวค่อนข้างเดินทางมาชมดอกกระเจียวที่ไทรทองน้อยกว่าป่าหินงามเยอะทีเดียว
เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างไกลและไม่ค่อยสะดวกเท่าอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เพราะที่ป่าหินงามมีบริการรถรางคอยรับส่งนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเดินไกล
และส่วนหนึ่งการประชาสัมพันธ์ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามจะโปรโมทมากกว่าอุทยานแห่งชาติไทรทองนั่นเอง จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาที่นี่เป็นส่วนใหญ่ค่ะ
นางเอกสำหรับทริปนี้ของเรา ก็คือ ดอกกระเจียวสีชมพูสีสันสดใสที่บานชูช่ออวดความงดงาม ให้เราได้ชมกันแค่ปีละครั้งเท่านั้นนะเออ ถ้าอยากจะชมดอกกระเจียวบานเต็มทุ่ง แนะนำให้เดินทางมาในช่วงเดือนกรกฎาคมน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด แต่ทั้งนี้ การบานของดอกกระเจียวก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เพราะดอกกระเจียวขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนค่ะ หรือเพื่อความชัวร์โทรติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่กันก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเที่ยวเสียเวลาค่ะ ซึ่งปริมาณของดอกกระเจียวของที่นี่กับไทรทองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ที่นี่ดอกกระเจียวจะขึ้นเป็นย่อมๆ และกระจัดกระจายทั่วบริเวณ
ไม่ได้ขึ้นหนาแน่นเช่นอุทยานแห่งชาติไทรทองค่ะ
ตลอดเส้นทางเดินที่คดเคี้ยวและทอดยาวไปตามจุดต่างๆ
ของลานทุ่งนั้น นักท่องเที่ยวสามารถแวะหยุดถ่ายรูปตามจุดต่างๆ กันได้อย่างจุใจ ซึ่งปีที่แล้วเราก็แวะมาชมดอกกระเจียวที่นี่นะคะ แต่มาช่วงที่ดอกกระเจียวยังบานไม่เต็มที่ ปีนี้มาใหม่ ... ดอกกระเจียวก็เกือบจะโรยหมดแล้วค่ะ แหม ไม่มีความพอดีเลยเนอะ แสดงว่าปีหน้าต้องแวะมาแก้มือใหม่แน่ๆ เลยเรา อิอิ ดอกกระเจียวสีชมพูที่บานชูช่อขึ้นมาท่ามกลางใบหญ้าสีเขียว ทำให้ดูโดดเด่นและเป็นสง่า ใครที่ชอบถ่ายรูปคงจะเพลิดเพลินไม่น้อย ส่วนใครที่ชอบอากาศเย็นๆ เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติเช่นนี้ ... ก็โอเคอยู่นะ
ถัดจากทุ่งดอกกระเจียว ยังมี "ผาสุดแผ่นดิน" ที่เป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามด้วยนะคะ ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมความงดงาม
และเก็บภาพบรรยากาศสุดเสียว เมื่อได้ยืนอยู่บริเวณหน้าผากับหินที่ยื่นออกไปกลางอากาศ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ที่เราจะได้เห็นความงดงามของทิวทัศน์ตามแนวสันเขาพังเหย
และเป็นที่ราบสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวต่างแวะมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกค่ะ แต่ระมัดระวังความปลอดภัยกันด้วยนะคะ
พอออกมาจากผาสุดแผ่นดินแล้ว เราจะแวะไปชม “ลานหินงาม”
ซึ่งถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ด้วยชื่อของอุทยานแห่งชาตินี้ก็น่าจะพอคาดเดาได้แล้วใช่มั้ยค่ะ
ว่าที่นี่จะต้องมีหินสวยๆ และรูปร่างแปลกให้ได้ชมกันอย่างแน่นอน
ซึ่งลานหินงามนี้จะเต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตากระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมเป็นเวลานานหลายล้านปี ที่ทำให้เนื้อดินและหินกลายเป็นรูปร่างต่างๆ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เช่น หินถ้ำมอง หินมอหำตั้ง หินฟีฟ่าเวิร์คคัพ
หินแม่ไก่ยักษ์ เป็นต้น
ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียว ถ้าหน้าฝนไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ก็ลองแวะมาชมดอกกระเจียวสีชมพูบานเต็มทุ่งชูช่อรอคอยการมาเยือนของนักท่องเที่ยวของทุกคน ซึ่งรับรองได้ว่าถ้ามีโอกาสได้มาสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติเช่นนี้ จะต้องประทับใจกับความสวยงามของดอกไม้ที่สามารถหาชมกันได้เพียงครั้งเดียวต่อปีเท่านั้น หากพลาดครั้งนี้แล้วก็ต้องรอคอยอีกครั้งในปีถัดไปเลยนะคะ ยิ่งถ้าใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนทุ่งดอกกระเจียวเลยสักครั้ง ต้องรีบๆ กันไหนน๊าา เพราะตอนนี้ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายแล้วค่ะ ก่อนที่ดอกกระเจียวจะร่วงโรยเสียก่อน ... เด่วจะหาว่าไม่บอก อิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น