ตึกแดง ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือแหลมสิงห์ ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี อยู่ใกล้กับคุกขี้ไก่ และสร้างมาพร้อมๆ กับคุกขี้ไก่เช่นกัน เป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นใน พ.ศ.2436 หรือ ร.ศ.112 มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว ยกพื้นสูงจากขอบถนนนิดหน่อย สร้างเป็นทรงสี่แหลี่ยมผืนผ้าแบบก่ออิฐถือปูน มีขนาดความกว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร หลังคามุงกระเบื้อง เป็นอาคารที่ทาสีแดงตลอดทั้งหลัง จึงเป็นที่มาของชื่อ "ตึกแดง" ภายในถูกแบ่งออกเป็น 5 ห้อง มีประตูเปิดถึงกันหมด ส่วนภายนอกอาคารมีระเบียง กั้นด้วยไม้แบบโปร่งทั้งสองข้างตามแนวยาว และบานประตูหน้าต่างทำเป็นบานเกล็ดไม้
ตึกแดง และ คุกขี้ไก่ ได้ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน ตามที่เราได้เกริ่นไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นอาคารที่ฝรั่งเศสได้สร้างขึ้นในบริเวณป้อมพิฆาตข้าศึก โดยการรื้ออิฐจากป้อมมาสร้าง เพื่อใช้อาคารนี้เป็นกองรักษาการณ์ และเป็นที่พักของทหาร ที่คอยรักษาปากน้ำแหลมสิงห์ ซึ่งในสมัยนั้นฝรั่งเศสได้แผ่อิทธิพลครอบครองญวนและเขมร และหาเรื่องรุกรานประเทศไทย โดยอ้างว่าดินแดนฝั่งด้านซ้ายของแม่น้ำโขง เคยเป็นของญวนและเขมรมาก่อน จึงจะถือโอกาสเข้ายึดครองพื้นที่ และทำสงครามสู้รบกับประเทศไทย ครั้งนั้นทำให้ไทยต้องจ่ายค่าเสียหายไปหลายล้านบาท แต่ขณะที่ประเทศไทยยังไม่สามารถยกดินแดนที่ฝรั่งเศสต้องการได้ และฝรั่งเศสยังไม่ได้รับค่าเสียหาย ฝรั่งเศสจึงใช้วิธียึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นตัวประกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2436 - 2446
ภายหลังปี พ.ศ.2447 ฝรั่งเศสได้ถอนกองกำลัง และถอยออกไปจากเมืองจันทบุรีไปจนหมดสิ้น ตึกแดงได้ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน จนในปี พ.ศ.2527 ถึงได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากร เพื่อใช้เป็นห้องสมุด และศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ของอำเภอแหลมสิงห์ และต่อมาได้เลิกใช้ไป จนปัจจุบันตึกแดงได้เปิดใช้งานอีกครั้ง เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เพื่อจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่าจะมาเป็นเมืองจันทบุรีในวันนี้ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดใดทั้งสิ้น ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.
ภายในอาคารห้องโถงมีปืนใหญ่หล่อสำริด น้ำหนักประมาณ 4 ตัน และมีลูกเหล็กกลม พร้อมโซ่เหล็กอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการพบปืนใหญ่ในลักษณะที่มีโซ่พันรอบตัวปืนนั้น น่าจะเป็นการใช้โซ่ผูกรัดปืนใหญ่ เพื่อทำการเคลื่อนย้าย จนเกิดอุบัติเหตุระหว่างเคลื่อนย้ายจนทำให้ปืนใหญ่กระบอกนี้ ตกลงไปในแม่น้ำจันทบุรี และอีกหลักฐานหนึ่งทำให้ถูกสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นปืนใหญ่ของฝรั่งเศส เพราะบนกระบอกปืนได้มีตราประทับรูปนกอินทรีย์ ที่เป็นตราสัญลักษณ์ของนโปเลียนโบนาปาร์ตจักรพรรดิฝรั่งเศส ซึ่งปืนกระบอกนี้ได้จมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี และได้ถูกค้นพบภายหลังจากที่ฝรั่งเศสได้ถอนกำลังออกจากเมืองไทยไปจนหมดแล้ว จึงได้ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่นี่ค่ะ
ตึกแดง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าความเป็นมาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากแผ่นป้ายที่อยู่ภายในห้องโถง เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสได้เข้ามาอยู่ในเมืองจันทบุรี ที่เมืองไทยเกิดข้อพิพาทกับฝรั่งเศสเมื่อ 100 กว่าปีก่อน หากใครที่สนใจความรู้ในประวัติศาสตร์ เราว่ามาเมืองจันทบุรีก็มีเรื่องราวให้เราได้ศึกษามากมายเหลือเกิน และการมาเยือนตึกแดงนั้น นอกจากจะได้ความรู้แล้ว สถานที่นี้ยังได้ถูกพัฒนาปรับปรุงให้พื้นที่มีความสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ ค่ะ