ลานหินแตก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้ายของจังหวัดเลย อำเภอนครไทยของจังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสักของจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ให้ได้ชมอย่างมากมาย ซึ่งแต่ละแห่งแต่ละจุดต่างก็มีเรื่องราวที่เล่าขานแตกต่างกันไป แต่การเดินทางสำหรับลานหินแตกนั้น ต้องมีความพร้อมกันเล็กน้อยนะคะ
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติแปลกตาและสวยงาม ทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นยุทธภูมิที่สำคัญอีกด้วยนะคะ เพราะในครั้งอดีตได้เกิดความขัดแย้ง และแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจึงเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่มีประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ และมีความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ก็ว่าได้ค่ะ
ลานหินแตก เมื่อปี พ.ศ.2515 เคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะสู้รบในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้ลานหินแตกได้ถูกการกล่าวขานกันว่าเป็น "ลานเลือด" แค่ได้ฟังได้อ่านจากข้อมูลต่างๆ พร้อมกับคิดภาพตามอดขนลุกไม่ได้เลยค่ะ สะบัดหัวไปมาเพื่อลบเลือนภาพน่ากลัวเหล่านั้น แล้วเดินทางกันต่อดีกว่าเนอะ ซึ่งตลอดทางเดินจะพบพันธุ์ไม้ประเภทมอส เฟิร์น กล้วยไม้ดิน และเอื้องหินต่างๆ ให้ได้ชมกันเพลินๆ ค่ะ
ลานหินแตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างที่มีพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ มีลักษณะเป็นลานหินที่มีรอยแตก เป็นแนวยาวเสมือนแผ่นดินแยกเป็นร่องลึกจำนวนมาก บางรอยก็มีขนาดแคบพอที่จะก้าวเท้าข้ามไปได้ แต่บางรอยก็มีขนาดความกว้างถึง 1 - 2 เมตร และมีความลึกอีกด้วย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านสะพานไม้เล็กๆ ที่ทอดข้ามผ่านรอยแยกของลานหินนั้นด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะรอยแยกเหล่านั้นบางรอยมีความลึกมาก ที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ ถ้าพลาดตกลงไปไม่อยากจะคิดเลยค่ะ หุหุ
ลานหินแตก ลักษณะทางธรณีพบว่า ในบริเวณดังกล่าวเป็นเทือกเขาที่มีการเอียงเทของชั้นหิน และเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก หินเหล่านี้ถูกดันตัวให้โก่งตัวขึ้น จนมีลักษณะเหมือนประทุนคว่ำ และการโก่งตัวดังกล่าว ยังทำให้หินเกิดมีรอยเลื่อนเป็นแนวตั้งฉากกัน ส่วนรอยแตกและรอยร่องลึกนั้น ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้เกิดการผุพังทลายของหิน และถูกน้ำกัดเซาะ จนทำให้เกิดลานหินแตก ดังเช่นสภาพที่เราๆ เห็นกันในปัจจุบันค่ะ
การเดินทางเที่ยวชมบนลานหินแตก ควรเดินตามลูกศรที่ชี้บอกเส้นทาง การเดินไปยังจุดต่อไปนะคะ เพื่อกันการพลัดหลงทางค่ะ ส่วนขากลับก็สังเกตจากลูกศรขาไปด้วยนะคะ เพราะบางช่วงจะไม่มีป้ายลูกศรชี้ทางขากลับ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนหาทางกลับไปเจอ เพราะนักท่องเที่ยวมักจะหลงทางหลงทิศกันอยู่ประจำ และตลอดการเที่ยวชมลานหินแตก ควรเพิ่มความระมัดระวังความปลอดภัย และอย่าประมาณในการก้าวกระโดดข้ามร่องหิน เพราะถือว่าอันตรายเป็นอย่างมาก ให้เดินตามสะพานที่ทางอุทยานฯ สร้างไว้ให้นะคะ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความแปลกมหัศจรรย์ ของลานหินแห่งนี้ ที่ถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้ได้อย่างสวยงาม แต่ถ้าต้องการจะไปจุดชมวิว เพื่อนั่งชมภาพพระอาทิตย์ตกริมหน้าผาล่ะก็ ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 450 เมตรนะคะ ถ้าเป็นเส้นทางเรียบเราบอกเลยว่าสบายมาก แต่การเดินบนลานหินแตกไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะเส้นทางขรุขระและยังต้องเดินด้วยความระวัง เพื่อไม่ให้พลาดร่วงลงไปในร่องหิน ต้องใช้เวลาในการเดินพอสมควรเชียวล่ะ บอกกับตัวเอง ... ไว้คราวหน้าค่อยมาแก้ตัวเนอะ อิอิ ระหว่างทางเก็บภาพดอกไม้สวยๆ บริเวณปากทางเข้าลานหินแตกมาฝากด้วยนะค่าาา
