โบสถ์สีน้ำเงิน หรือ วัดปากน้ำแขมหนู ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ที่มีการกล่าวขานถึงความงดงามที่แปลกตา ของพระอุโบสถหรือว่าโบสถ์ ที่ถูกสร้างขึ้น ด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำเงิน ด้วยความงดงามที่โดดเด่นตระการตา มีความแตกต่างไปจากวัดอื่นๆ จนทำให้วัดแห่งนี้ กลายเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดจันทบุรี ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ และแวะเวียนมาชมกันไม่ขาดสาย
ด้วยพระอุโบสถหลังเก่าที่เริ่มชำรุดทรุดโทรมไปมาก เนื่องจากวัดปากน้ำแขมหนู อยู่ใกล้ชิดทะเล ทำให้โครงสร้างของพระอุโบสถผุกร่อน ลุกลามไปทั่วจนถึงบริเวณหลังคา จนไม่สามารถประกอบกิจของสงฆ์ได้ ทางวัดจึงได้มีมติร่วมกับทางชาวบ้าน เพื่อจะรื้อโบสถ์หลังเก่า และสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาทดแทน พร้อมกับหาวิธีป้องกันไม่ให้โบสถ์หลังใหม่เกิดความชำรุดรวดเร็ว เนื่องจากอยู่บริเวณที่ติดกับน้ำเค็ม
อุโบสถหลังใหม่ได้นำเอารูปแบบจากวัดสระบาปมาเป็นตัวอย่าง และเจ้าอาวาสได้ไปพบวัดแห่งหนึ่ง ที่มีการใช้กระเบื้องเซรามิคมาประดับ และเห็นว่าเซรามิคมีพื้นผิวที่มันเงา คงทนแข็งแรง จึงมีแนวคิดที่จะใช้กระเบื้องเซรามิค มาประดับลวดลายลงผนังโบสถ์ทั้งหลัง เพื่อลดเวลาการก่อสร้าง และไม่ต้องทาสีบ่อยๆ แถมยังลดการเสื่อมสภาพของตัวสีได้อีกด้วยค่ะ
กระเบื้องเซรามิค ได้เลือกใช้ลวดลายสีน้ำเงินตัดกับสีขาว ซึ่งเป็นภาชนะลายครามที่ทำจากเซรามิคสมัยโบราณ จะมีการใช้สีหลักเพียงสองสีเท่านั้น คือ พื้นสีขาว และตัดลวดลายด้วยสีน้ำเงิน เมื่อได้นำมาลองใช้กับโบสถ์ ก็พบว่ามีความสวยงามโดดเด่น จึงได้นำมาประดับตกแต่งพระอุโบสถ จนกลายเป็นโบสถ์สีน้ำเงินอย่างที่เห็นกันค่ะ
ภายในโบสถ์มีความงดงามไม่แพ้เซรามิคสีน้ำเงินด้านนอก โดยเฉพาะประตูโบสถ์ที่ทำด้วยไม้ทั้ง 4 บาน มีการแกะสลักภาพนูนต่ำ เกี่ยวกับพุทธประวัติสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลงสีโดดเด่นเก็บทุกรายละเอียด ส่วนพื้นผนังด้านในพระอุโบสถ ประดับด้วยภาพลงสีเกี่ยวกับวรรณคดีชาดก และพระมหาชนก โดยมีพระประธานที่จำลองแบบมาจากพระพุทธชินราช หลังจากกราบไหว้พระประธานแล้ว เราก็ใช้เวลาที่เหลือเดินชมบริเวณโดยรอบ ไม่ว่าจะมุมไหนก็มีความสวยงามทุกจุดค่ะ บริเวณวัดยังมีความเงียบสงบและร่มเย็นอีกด้วย และที่สำคัญสถานที่สะอาดสะอ้านมากๆ ค่ะ
