เป็นโอกาสดีที่เราบังเอิญได้มารู้จักกับวัดร่ำเปิง ซึ่งเป็นวัดวิปัสสนากรรมฐานทางภาคเหนือ
ที่ทำการอบรมพระกรรมฐานในแนวสติปัฏฐาน ๔ ที่ปัจจุบันมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมเข้ารับการอบรมปฏิบัติต่อเนื่องกันตลอดปีไม่ขาดสาย
ซึ่งวัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) เป็นสำนักอบรมวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางไม่ยากนัก ขับรถมาตามถนนเลียบคลองชลประทาน
ขับผ่านกาดต้นพะยอมไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
ก็จะมีป้ายบอกทางให้กลับรถก็จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดค่ะ เราเลยถือโอกาสเก็บภาพและข้อมูลมาฝากอีกเช่นเคย ก้าวแรกที่เราลงจากรถรู้สึกถึงบรรยากาศอันเงียบสงบมาก
บริเวณภายในวัดมีประชาชนมากมายทั้งหญิงชายชาวไทย และชาวต่างชาติในชุดนุ่งขาวห่มขาวต่างอยู่ในอิริยาบถการวิปัสสนากรรมฐานในท่าต่างๆ
ทั้งนั่งสมาธิและเดินจงกรม ด้วยบรรยากาศเช่นนี้
ทำให้เราต้องสำรวมกิริยาและการกระทำที่อาจจะก่อสิ่งใดที่อาจจะเป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรมได้
เชื่อไหมว่าเราต้องย่องเดิน เพื่อไม่ให้เกิดเสียง
ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติโดยปริยายค่ะ
วัดร่ำเปิงเป็นวัดสังกัดมหานิกายที่สอนการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ตามหลักสติปัฏฐานสี่ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยพระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล เป็นผู้ริเริ่ม หากใครมีโอกาสได้มาเยือนหรือเยี่ยมเยียนวัดแห่งนี้
ควรสำรวมและระวังไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนสมาธิของผู้ปฏิบัติธรรมนะคะ
หากใครที่สนใจจะมาปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ก็สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานด้านหน้าทางเข้าวัดได้เลยค่ะ
ผู้ที่ต้องการแสวงหาความสงบและต้องการฝึกจิตใจ สามารถเข้ามาอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกันได้ตามแต่ศรัทธา แต่การปฏิบัติธรรมที่นี่ก็มีข้อปฏิบัติที่ทุกคนควรจะเคร่งครัดในระหว่างการฝึกปฏิบัติกรรมฐานเช่นกัน คือ ห้ามจับกลุ่มคุยกัน
ทั้งภายในห้องพักหรือบริเวณอื่นๆ ไม่สวมเครื่องประดับ ไม่ใช้เครื่องสำอางของมีกลิ่นหอม มัดรวบผมให้เรียบร้อย
ไม่ใช้โทรศัพท์ตลอดที่เข้าปฏิบัติธรรม ไม่อนุญาตให้ออกนอกบริเวณวัดโดยเด็ดขาด
หากจำเป็นต้องได้รับอนุญาตเสียก่อน
และต้องร่วมปฏิบัติธรรมทุกวันพร้อมกันตามเวลาที่กำหนด และยังมีข้อปฏิบัติปลีกย่อยอื่นๆ
อีกนิดหน่อยสามารถศึกษาและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทางวัดได้ค่ะ
หากสามารถปฏิบัติจากข้อห้ามข้างต้นที่ได้เกริ่นไว้แล้ว ก็ไม่น่าหนักใจแล้วค่ะ
ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติง่ายๆ
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มาปฏิบัติธรรมเอง เพื่อให้เกิดสมาธิไม่วอกแวกเกิดความฟุ้งซ่านจนเสียการปฏิบัติธรรมค่ะ
หากไม่ทำตามกฎระเบียบทางเจ้าหน้าที่ของวัดก็มีสิทธิ์ให้ออก และจะไม่พิจารณาเข้าอยู่วัดในครั้งต่อไปนะคะ
ส่วนเข้าของเครื่องใช้สำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรมทางวัดจะมีห้องพัก
ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ให้พร้อม ส่วนของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นก็จัดเตรียมมาตามความเหมาะสม
เสื้อผ้าของผู้ปฏิบัติธรรมต้องเป็นสีขาว
ผู้หญิงสามารถสวมใส่ได้ทั้งกางกางขายาวและผ้าถุง เสื้อห้ามคอกว้าง รัดรูป แขนกุด
เอวลอย และต้องมีสไบขาวด้วยนะคะ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก่อนการเข้าปฏิบัติธรรมต้องแสดงบัตรประชาชนทุกครั้ง นอกจากนั้นทางวัดได้จัดเตรียมอาหารตามความเหมาะสมให้ทั้งมื้อเช้าและมื้อเที่ยง
มีทั้งอาหารเจและไม่เจ เพราะทางวัดไม่อนุญาตให้ออกไปซื้ออาหารข้างนอกหรือปรุงอาหารทานเอง
หากผู้ปฏิบัติธรรมขาดเหลือของใช้ที่จำเป็นสามารถซื้อได้จากร้านค้าในวัดค่ะ ก่อนเข้าปฏิบัติธรรมจะต้องผ่านพิธีรับพระกัมมัฏฐาน
เวลา 08.00 น. ของทุกวัน (ยกเว้นวันพระ) และวันที่ออกจากการปฏิบัติธรรมก็ต้องผ่านพิธีลาศีล
เวลา 06.00 น. ของทุกวัน และระหว่างการปฏิบัติธรรมจะต้องสอบอารมณ์ทุกวันเช่นกัน
ตามเวลาและสถานที่ที่จัดไว้
หากสนใจหรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้จากสำนักงานได้ทุกวันนะคะ ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.00 น. เบอร์โทรศัพท์
053 – 278620
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น