วัดตระพังทอง โบราณสถานกลางสระน้ำ สุโขทัย


วัดตระพังทอง ตามประวัติความเป็นมา เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี อยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเก่า ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสุโขทัยค่ะ มีสระน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบบริเวณวัด และบริเวณเกาะกลางน้ำมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญของวัดตระพังทอง โดยมีสะพานไม้ขนาดใหญ่ทอดข้ามไปยังเกาะแห่งนี้ได้


วัดตระพังทอง เป็นอีกหนึ่งวัดในสุโขทัย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเก่า และความสวยงาม เพราะเป็นวัดคู่สุโขทัยมานาน เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามในด้านสถาปัตยกรรม และความมีเสน่ห์แบบไทยๆ ด้วยวัดตระพังทองมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำ จึงมีชื่อเรียกว่า ตระพังทอง เพราะคำว่าตระพัง แปลว่า สระน้ำ หรือหนองน้ำค่ะ และที่สำคัญของวัดตระพังทองนี้ ยังมีรอยพระพุทธบาทสมัยสุโขทัยได้ประดิษฐานอยู่ที่นี่อีกด้วย นอกจากนั้นวัดตระพังทองยังเป็นวัดที่มีพระภิกขุจำพรรษามาโดยตลอด เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของพุทธศาสนิกชนทั่วไป


มณฑปจัตุรมุข ตั้งอยู่ด้านหน้าเจดีย์ประธานค่ะ เป็นมณฑปขนาดเล็ก ภายในมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา จากหินสีเทาดำ สร้างขึ้นสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อปี พ.ศ.1902 ทรงให้จำลองแบบจากศรีลังกา และได้นำไปประดิษฐานไว้ที่เขาพระบาทใหญ่ แต่ปัจจุบันได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่มณฑปจัตุรมุขแห่งนี้ ภายในรอยพระพุทธบาทนั้น ได้จำหลักเป็นลายมงคลหนึ่งร้อยแปด และลายดอกจันโดยรอบ เนื่องจากเรามาที่นี่เช้าเกินไป และมาคนเดียวด้วย เลยไม่กล้าเดินขึ้นไปค่ะ เสียดายมากที่ไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมกัน ได้แต่เพียงเก็บภาพพระพุทธรูปองค์สีขาว ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาข้างสระน้ำ และบริเวณโดยรอบมาให้ชมกันนะคะ


เจดีย์ประธาน ตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถ และมณฑปจัตุรมุข เป็นเจดีย์ทรงลังกา (ระฆังคว่ำ) ศิลปะในสมัยสุโขทัย ฐานก่อด้วยหินศิลาแลง ส่วนบนก่อด้วยอิฐ เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วอกไก่รูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นฐานกลมลดหลั่นขึ้นไป จนถึงชั้นบัวถลา ถัดขึ้นไปอีกเป็นชั้นบัลลังก์ ก้านฉัตร และปลียอด ส่วนอุโบสถด้านในมีพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อขาว เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราพลาดอีกเช่นกัน เนื่องด้วยมาเช้าเกินไป อุโบสถยังไม่เปิด เป็นเหตุให้เราพลาดในการเข้าชม ได้แต่เพียงเดินเกาหัวและเดินกลับอย่างน่าเสียดายค่ะ ไว้โอกาสหน้าได้มาเยือนอีกครั้ง จะไปซ่อมภาพกลับมาให้สมบูรณ์เลยค่ะ