โบราณสถาน กู่ช้าง - กู่ม้า ลำพูน



เมืองลำพูนแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ใช่ว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน้อยเสียเมื่อไหร่ วันนี้เราจะเริ่มต้นพามาเที่ยวชมกับโบราณสถานและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี ตลอดจนเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน ตลอดชาวบ้านและประชาชนทั่วไปที่ให้ความเคารพนับถือ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำพูน ที่มาพร้อมกับตำนานมหัศจรรย์ ที่เกี่ยวพันกับพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ที่เป็นหนึ่งเดียวในวีรสตรีแห่งสยามประเทศ ที่ผู้คนต่างให้ความเคารพนับถือ ในคุณงามความดี และวีรกรรมที่ท่านได้สร้างเอาไว้ 




กู่ช้าง - กู่ม้า ตั้งอยู่ในชุมชนวัดไก่แก้ว ซอยกู่ช้าง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งชาวลำพูนนิยมเรียกกันว่า "เจ้าพ่อกู่ช้าง" เพราะเชื่อกันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ หากต้องการสมหวังในสิ่งใด ก็จะนำดอกไม้ธูปเทียนมาขอพรจากท่าน มักจะประสบโชค และสมหวังในด้านต่างๆ และเมื่อเกิดผลสำเร็จก็จะนำสิ่งที่ได้บนบานไว้มาถวาย ซึ่งช่วงที่เราเดินทางมาเยือนที่นี่ มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ และนำของมาถวายอยู่ตลอดเวลา เช่น กล้วยน้ำว้า อ้อย หรือหัวหมู ตามที่ใครได้บนบานอะไรไว้ และในทุกๆ ปี จะมีการจัดประเพณีรดน้ำดำหัว และบวงสรวงเจ้าพ่อกู่ช้างในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 นับเป็นอีกหนึ่งประเพณีของจังหวัดลำพูนที่น่าสนใจค่ะ




กู่ช้าง  ซึ่งตำนานได้เล่าขานกันมาว่า เป็นสุสานช้างศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี เป็นเจดีย์ทรงกระบอกปลายมนขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุงาของ "ปู่ก่ำงาเขียว" ช้างทรงของพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นช้างที่มีฤทธานุภาพมาก และมีอิทธิฤทธิ์ในสงคราม เมื่องาได้ชี้ไปทางใดจะทำให้ผู้คนอ่อนล้าและล้มตาย เมื่อเวลาผ่านไปปู่ก่ำงาเชียวได้ล้มและสิ้นลม จึงได้สร้างเจดีย์ทรงสูง เพื่อฝังงาช้างให้ปลายงาชี้ขึ้นด้านบน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นฐานในวงกลม ซ้อนเหลื่อมกัน มีลักษณะคล้ายทรงกรวย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบพิเศษ ที่พบในอาณาจักรที่มีอายุร่วมสมัยกับอาณาจักรหริภุญไชย เช่นที่เจดีย์บอบอลยี (Bawbawkyi) ในอาณาจักรพยู ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพม่า




กู่ม้า เป็นสถูปอีกองค์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับกู่ช้าง แต่มีขนาดที่เล็กกว่า มีรูปแบบคล้ายทรงระฆัง ตั้งอยู่ด้านหลังกู่ช้าง ถือว่าเป็นสุสานช้างศึก - ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ พระราชโอรสของพระนางจามเทวี  เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือตราบจนทุกวันนี้




บริเวณใกล้องค์เจดีย์มีศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว  สร้างไว้เพื่อให้ลูกหลาน ลูกศิษย์ และประชาชนทั่วไป ที่เคารพศรัทธาได้สักการะ และเชื่อกันว่า หากได้ลอดท้องช้างปู้ก่ำงาเขียวนี้แล้ว จะเป็นสิริมงคล ประสบแต่ความโชคดี มีความปลอดภัยในการเดินทาง ทำมาค้าขาย ทำงานหรือเล่าเรียน จะประสบผลสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองตลอดไป




บริเวณโดยรอบกู่ช้าง - กู่ม้า ได้สร้างสวนหย่อมเอาไว้ เพื่อให้ร่มรื่น และอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร บนบานเจ้าพ่อกู่ช้าง หรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมได้พักผ่อนตามอัธยาศัยใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และหากสังเกตให้ดี ทั่วบริเวณจะมีตุ๊กตารูปช้างและรูปม้าวางเรียงรายตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณ เราเดาว่าคงจะมีประชาชนนำมาถวายแก่กู่ช้างและกู่ม้านั่นเอง ที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เราได้เดินทางมาแล้วรู้สึกประทับใจในหลายๆ เรื่อง จึงอยากให้ทุกคนได้แวะมากราบไหว้กันค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น: