ศศิดารารีสอร์ท (Sasidara Resort) น่าน



เมื่อภารกิจจบสิ้นลงพร้อมกับความเหนื่อยล้ามากมาย กับการเดินทางที่หลากหลายในแต่ละวัน คงจะถึงเวลาที่เราจะหาที่พักสบายๆ เพื่อหยุดความเมื่อยล้าสักที ตลอดเวลาที่อยู่จังหวัดน่าน แต่ละนาทีคือการเดินทางทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนในช่วงระหว่างวันเลย เพราะทุกอย่างเราต้องทำเวลาให้ตรงกับเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ และเราก็ทำสำเร็จได้ด้วยดี แต่น่าแปลกดีนะคะ ที่ช่วงเวลาเหล่านั้น เราไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แต่พอเวลาได้ผ่านพ้นไป จนถึงวันสุดท้ายที่พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เรากับรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน แทบจะก้าวขาไม่ออกเลยค่ะ แห่ะๆ




คืนนี้เราเดินทางมาพักที่โรงแรมศศิดารารีสอร์ทค่ะ การเดินทางมาที่นี่ไม่ยากเกินความสามารถ เริ่มต้นจากตัวเมืองน่านโดยขับรถเข้าถนนเชียงใหม่ – ลำพูน ตรงไปจะเห็นซอยแยกเข้าพระธาตุเขาน้อย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 500 เมตร ก็จะเห็นโรงแรมศศิดารารีสอร์ทอยู่ทางด้านซ้ายมือ ตรงข้ามทางขึ้นวัดพระธาตุเขาน้อยนะคะ ระหว่างที่เรารอเช็คอิน  เราเก็บภาพบรรยากาศภายในรีสอร์ทได้ในบางส่วน ที่นี่ถือว่าเราถ่ายรูปได้น้อยมาก หากเปรียบเทียบกับที่เราได้เข้าพักจากที่อื่น ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร่างกายต้องการพักผ่อน เพราะขณะนี้แบตเตอรี่ภายในร่างกายเริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อเราทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นห้องพักในทันที แต่เท่าที่เราสังเกตที่นี่เงียบมาก ไม่เห็นใครเลยนอกจากพนักงานสองคนที่อยู่บริเวณหน้าเคาเตอร์ ด้วยความที่เหนื่อยกับการเดินทางสะสมมาหลายวัน วินาทีนี้ขอเวลาสูดหายใจลึกๆ แล้วบอกร่างกายให้ช้าลง ให้เวลากับร่างกายได้หยุดพักหายใจลึกๆ สักนิด ก่อนที่จะขอตัวอาบน้ำเพื่อปรับโหมดความสดชื่นให้เข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อคืนความสดใสให้กับฉันคนเดิมที่จะกลับมา ...




เมื่อเข้าที่พักแล้ว และอาบน้ำคืนความสดชื่นให้กับร่างกายแล้วด้วย ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนมาหน่อย ฮ่าๆ ค่ำคืนนี้เราจะพักแรมกันที่ศศิดารารีสอร์ท เพราะที่พักที่นี่เดินทางไปพระธาตุเขาน้อยใกล้มาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ แม้ว่าจะอาบน้ำคืนความสดชื่นให้กับร่างกายแล้ว แต่ก็ไม่สามารถอยู่ดี ทริปนี้มาหลายวันเหนื่อยจริงๆ ค่ะ แม้จะลงไปเดินเล่นเก็บภาพภายในรีสอร์ทยังขี้เกียจเลยขอบอก ถ่ายภาพมาได้ไม่เท่าไหร่ ขอนอนหลับสักตื่นนะคะ ก่อนจะออกไปข้างนอกหาอะไรทานเบาๆ รองท้องในมื้อเย็น ส่วนพระธาตุเขาน้อยจำเป็นต้องขอปักหมุดไว้ก่อน คราวหน้าหากมีโอกาสได้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง เราสัญญาว่าจะต้องขึ้นไปนมัสการพระธาตุเขาน้อยให้จงได้




ก่อนที่เราจะล้มตัวนอน ไม่ลืมที่จะเก็บภาพเตียงนอนสีขาวสะอาดสบายตามาให้ชมกัน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่คิดจะแวะมาพัก ส่วนราคาห้องพักที่นี่ไม่ถึงพันบาท แต่มีพื้นที่ห้องกว้างมาก และได้รับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และผ้าท้องถิ่น และผนังห้องยังติดกรอบรูปปู่ม่านย่าม่านเป็นภาพการกะซิบรักบันลือโลก ได้รับกลิ่นอายทางภาคเหนือไปแบบเต็มๆ กันเลยนะคะ ส่วนภายในห้องพักก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกเช่นรีสอร์ททั่วๆ ไป เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น และมีอินเตอร์เน็ตไร้สายด้วยค่ะ ราคานี้มาพร้อมกับอาหารเช้าไว้คอยบริการอีกด้วย ถือว่าราคานี้สุดคุ้มมากๆ ค่ะ ความโดดเด่นที่นี่เรายกให้กับความเงียบสงบ และการจัดบรรยากาศให้คล้ายกับบ้านพักส่วนตัว




ตื่นตอนขึ้นมาสดชื่นทันตาเห็นเลยค่ะ หากใครรู้สึกเหนื่อยล้าไม่สดใสทั้งๆ ที่ตะวันยังไม่ตกดินล่ะก็ ลองนอนกลางวันสักงีบดูจะเป็นไรไป แต่อย่าเผลอนอนหลับในเวลางานนะเออ หากใครได้ซองขาวจะมาโทษเราไม่ได้น๊า ได้เวลาประมาณหนึ่งทุ่มเราก็ออกมาหาอะไรทานข้างนอกค่ะ เราเปิดประตูห้องพักออกมา บรรยากาศยามค่ำคืนกับกลางวันเมื่อช่วงบ่ายต่างกันลิบลับ ยามที่รีสอร์ทเปิดไฟในยามราตรี ความสวยก็บรรเจิดขึ้นมาผิดไปจากเมื่อช่วงกลางวันเป็นไหนๆ แทบจะไม่น่าเชื่อค่ะ ว่าแล้วหันหลังกลับเข้าไปเอากล้องมาถ่ายรูปดีกว่า ฮ่าๆ 




ต่างจังหวัดพอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าดูเงียบเชียบดีจัง ร้านรวงต่างๆ ก็เริ่มทยอยกันปิดร้านแล้วค่ะ ขับรถออกมาไม่ไกลมากนัก ขับไปขับมามืดแปดด้านเหมือนกัน มาต่างถิ่นแบบนี้ จะหาอะไรทานดีเน้อ และแล้วก็มีความคิดผ่านสมองที่ได้รับการพักผ่อนมาอย่างเพียงพอ เราจำได้ว่า วันแรกที่เรามาถึงที่นี่ มีคนบอกเราว่ามีร้านข้าวต้มกุ๊ยฮั้วเลิศรสอร่อยมาก อาหารรสชาติดี มีเมนูให้เลือกเยอะ บรรยากาศเรียบง่าย ราคาถูก และมีคนมาทานกันเยอะ ร้านนี้อยู่ใกล้กับสถานีขนส่งจังหวัดน่านค่ะ รวดเร็วทันความคิด เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็มาจอดรถอยู่หน้าร้านแระ เรื่องหาของกินไม่ยากเกินความสามารถเราอยู่แล้ว ฮ่าๆ ไม่มีภาพมาประกอบนะเออ เพราะโต๊ะที่นั่งมืดมากๆ ค่ะ ก่อนนอนทานอาหารกันเบาๆ แบบนี้ดีที่สุดนะเราว่า กลับไปจะได้นอนหลับสบาย พรุ่งนี้ต้องขับรถกับกรุงเทพแล้วค่ะ ฮือๆ




ตัดฉับ ... กล่าวอรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะทุกๆ คน เช้านี้ตื่นมาแบบสบายๆ ด้วยความสดชื่นโดยไม่ต้องรีบร้อน อาบน้ำเก็บข้าวของแพ็คลงกระเป๋าให้เรียบร้อย พร้อมกับหิ้วกระเป๋าลงไปเก็บในรถเลยค่ะ แล้วเดินไปทานข้าวมื้อเช้า Welcome Breakfast ที่นี่จะเป็นอาหารแบบออเดอร์จากเมนู ไม่มีบุฟเฟ่ต์ เราจัดเต็มไปสองจาน หมูผัดกระเพราราดข้าวไข่ดาว และไข่ออมเล็ต ผสมผสานอาหารสองสัญชาติเลยค่ะ อิอิ และตบท้ายด้วยผลไม้รวมสดๆ สีสันน่าทานก่อนจะออกเดินทางในเช้านี้ ... กลับบ้านเรา ฮิ้ววว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น